วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555

โรงพยาบาลสุราษฎร์ฯ ได้งบกว่า 500 ล้าน ขยายอาคารรักษาผู้ป่วย



โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ได้งบกว่า 500 ล้านบาท ขยายอาคารรักษาผู้ป่วย หลังก้าวเข้าสู่ภาวะวิกฤตคนไข้ล้นโรงพยาบาล ทั้งผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยใน บุคลากรทางการแพทย์ต้องทำงานหนัก งบประมาณไม่เพียงพอ
      
       
นายโสภณ เพชรสว่าง ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างอาคารรังสีวินิจฉัย รักษา ชันสูตร คลอด ผ่าตัด ผู้ป่ายหนัก ศูนย์โรคหัวใจ และมะเร็ง 7 ชั้น โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ซึ่งอาคารดังกล่าวก่อสร้างด้วยงบประมาณ 540 ล้านบาท
      
       
นายแพทย์อดิเกียรติ เอี่ยมวรนิรันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เป็นโรงพยาบาลที่มีโครงสร้างเทียบเท่าโรงพยาบาลทั่วไป รองรับผู้ป่วยใน 500 เตียง ผู้ป่วยนอก 1,000 คนต่อวัน แต่ปัจจุบัน กระทรวงสาธารสุขมอบหมายให้เป็นโรงพยาบาลศูนย์ ขนาด 800 เตียง มีผู้ป่วยนอกเฉลี่ย 2,000 คนต่อวัน เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายระบบบริการสุขภาพ รับผิดชอบประชากรในเขตภาคใต้ตอนบน 5.2 ล้านคน และเป็นศูนย์บริการตติยภูมิขั้นสูง คือ ศูนย์โรคหัวใจ ศูนย์มะเร็ง ศูนย์อุบัติเหตุ ศูนย์เปลี่ยนถ่ายอวัยวะ ศูนย์ทารกแรกเกิดที่มีภาวะวิกฤต และเป็นศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิก มีภารกิจผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบทร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
      
       
จากพันธกิจที่รับผิดชอบดังกล่าว จึงมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงส่งผลให้โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีเข้าสู่ขั้นวิกฤต เกิดปัญหาความแออัดสะสม ปัญหาโครงสร้างของโรงพยาบาลไม่เหมาะสม ทำให้ไม่สามารถรองรับกับพันธกิจที่ได้รับมอบหมายที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา อันมีผลกระทบทั้งองค์กร ผู้รับบริการ และบุคลากรในการปฏิบัติงาน องค์กรถูกร้องเรียน ผู้รับบริการได้รับบริการที่ล่าช้า เนื่องจากถูกกำจัดด้วยพื้นที่ที่รองรับการให้บริการ บุคลากรปฏิบัติงานได้ไม่เต็มศักยภาพ ด้านสถานภาพทางการเงินของโรงพยาบาลส่วนใหญ่ได้จากการเหมาจ่ายรายหัวของประชากร จึงไม่เพียงพอที่จะขยายอาคารสถานที่
      
       
ปัจจุบัน โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคมะเร็ง และการเจ็บป่วยจากอุบัติเหตุ นับเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ เป็นสาเหตุระดับต้นๆ ของประชากรที่นับวันจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ด้วยสภาพการณ์ที่เสริมความรุนแรงของโรค จากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมชนบทสู่สังคมเมือง การแข่งขันทางธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม ทำให้เกิดความเครียด ขาดการออกกำลังกายที่เหมาะสม มีวัฒนธรรมในการบริโภคที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าการสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เป็นต้น ทำให้อุบัติการณ์ของหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุก็ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่ก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิต และความพิการ และยังมีผลกระทบทางเศรษฐกิจ และสังคมอย่างรุนแรงเป็นอันดับ 1 มาตลอด
      
       
ดังนั้น โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี จึงต้องวางแผนการพัฒนาด้านกายภาพที่เป็นรูปธรรม พร้อมนำไปสู่การพัฒนาอย่างบูรณาการ เพื่อรองรับการขยายตัวในการบริการทางสาธารณสุข การเรียน การสอน การวิจัย การพัฒนา และการบริการทางวิชาการที่เน้นการสร้างองค์ความรู้ และนวัตกรรมทางการแพทย์ที่เป็นเลิศในภาคใต้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สุราษฎร์ฯ ใช้งบฉุกเฉิน 50 ล้านซื้อน้ำมัน-บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนบนเกาะสมุย และเกาะพะงัน




ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ ประกาศให้อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงันเป็นเขตภัยพิบัติ นำงบฉุกเฉิน 50 ล้านซื้อน้ำมัน และบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน ด้านผู้ประกอบการโวยไฟฟ้าดับกว่า 50 ชั่วโมง สร้างความเสียหายให้ธุรกิจมหาศาล
    
       จากกรณีที่ได้เกิดกระแสไฟฟ้าดับในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่เวลา 08.00 น.ของวันที่ 4 ธันวาคมเป็นต้นมา จนถึงขณะนี้กว่า 50 ชั่วโมงแล้วที่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ โดยล่าสุด นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เดินทางไปเกาะสมุยอีกครั้ง เพื่อติดตามความคืบหน้าและได้เข้าประชุมถึงความคืบหน้า และรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น จากนั้นได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ 2 อำเภอ เพื่อนำงบประมาณ 50 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้เดือดร้อน โดยเฉพาะในเรื่องของน้ำมันเชื้อเพลิงที่จำเป็นมากที่สุดในตอนนี้
    
       นายเสนีย์ ภูวเศรษฐถาวร ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ขณะนี้การซ่อมแซมยังไม่แล้วเสร็จ ผู้ประกอบการโรงแรมจนถึงชาวบ้านระดับรากหญ้า ร้านอาหาร ก็ยังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ยังต้องใช้ตะเกียง หรือเทียนส่องสว่างไปก่อน จนทำให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง โดยเฉพาะผู้ประกอการธุรกิจโรงแรมที่มีอยู่ประมาณ 500 แห่ง หรือประมาณ 18,000 ห้อง และผู้ประกอบการห้องเช่า อพาร์ตเมนต์ รีสอร์ตอีกประมาณ 4,000-5,000 ห้อง ได้รับผลกระทบไม่น้อยกว่า 20 เปอร์เซ็นต์
    
       แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวของเกาะสมุย จะทำให้เสียชื่อเสียงไปด้วย ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงอยากจะให้ภาครัฐ หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะระบบไฟฟ้าจะเกี่ยวข้องกับระบบสาธารณูปโภคทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนของการผลิตน้ำประปาซึ่งอาจจะผลิตไม่ทัน และมีการซื้อเชื้อเพลิงเพื่อกักตุน
    
       รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจะมีการลากสายไฟฟ้าจาก อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร มายัง อ.เกาะสมุย ผ่านทางเสาไฟฟ้า เนื่องจากสายไฟฟ้าเดิมที่ผ่านทางเคเบิลใต้ดิน ใต้น้ำ หมดอายุการใช้งานแล้ว และทางจังหวัดมีแผนจะดำเนินการวางสายเคเบิลใหม่ ในปี 2556 แต่มาเกิดปัญหาสายเคเบิลระเบิดเสียก่อน โดยตอนนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ระดมกำลังช่างไฟฟ้าจากภาคใต้หลายแห่งเข้ามาสับเปลี่ยนกำลังที่ปฏิบัติการในการเดินเสาไฟฟ้า แต่ยังทำได้ไม่มากนัก เพราะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของการไฟฟ้าอย่างช้าๆ เนื่องจากติดขัดที่ระบบเทคนิค
    
       สำหรับในส่วนของโรงพยาบาลเกาะสมุย และโรงพยาบาลเกาะพะงัน ขณะนี้ยังไม่มีปัญหา เพราะทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุขในการสนับสนุนงบประมาณจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงไปสำรองเครื่องปั่นไฟให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา โดยที่ตอนนี้ ทั้ง 2 โรงพยาบาลไม่มีผู้ป่วยหนัก แต่หากมีทางโรงพยาบาลสามารถช่วยเหลือได้ตามปกติ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2555

กฟภ.สมุยแจงไฟดับจากสายเคเบิลใต้น้ำชุดรุด


การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอเกาะสมุยแจงปัญหาไฟฟ้าดับทั้งเกาะ เกิดจากสายเคเบิ้ลใต้น้ำชำรุด เร่งซ่อมแซมแล้ว คาด 23.00 น.คืนนี้จ่ายไฟฟ้าได้ตามปกติ เบื้องต้นระดมเครื่องปั่นไฟมาจากหลายจังหวัด จ่ายให้พื้นที่ละ 2 ชั่วโมง
      
       
จากกรณีที่เกิดปัญหาไฟฟ้าขัดข้องในพื้นที่เกาะสมุยทำให้ไฟฟ้าดับเกือบทั้งเกาะเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.55 นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ลงพื้นที่เกาะสมุย เพื่อรับทราบปัญหาดังกล่าว
      
       
นายศรชัย จาตุรนต์ลักษณ์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้ชี้แจงถึงสาเหตุไฟฟ้าขัดข้องดังกล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2555 เวลาประมาณ 10.30 น. สายเคเบิ้ลใต้น้ำระบบ 115 เควี ชำรุดไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบจุดเกิดเหตุเมื่อเวลา 23.00 น. ที่บริเวณหน้าวัดศีรีมาส บ้านพังกา ต.ตลิ่งงาม อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้จัดนำเครื่องมือจากจังหวัดเชียงรายพร้อมชุดปฏิบัติงานจะเดินทางมาถึงสนามบินเกาะสมุยในเวลา 14.00 น.วันที่ 5 ธ.ค.55 และจะเร่งดำเนินการซ่อมแซมในช่วงตั้งแต่เวลา 15.00 น.เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเวลาประมาณ 23.00 น.
      
       
ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเกาะสมุย กล่าวอีกว่า ในส่วนของการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่เกาะสมุย และเกาะพะงันนั้น การไฟฟ้าฯได้กระจายกระแสไฟฟ้าให้ประชาชนในบางพื้นที่แล้ว ครั้งละ 2 ชั่วโมง และดับ 14 ชั่วโมง สลับพื้นที่กันเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้น ขณะที่อีกส่วนหนึ่งได้ระดมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากนครศรีธรรมราช ยะลา เพชรบุรี มาช่วยผลิตกระแสไฟฟ้า และในส่วนของตำบลเกาะเต่าสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์