วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ทน.สุราษฎร์ฯ จัดระบบจราจรใหม่แก้วิกฤตคับคั่งเขตเมือง


เทศบาลนครภูเก็ตสุราษฎร์ฯ แก้วิกฤตจราจรในเขตเมือง จัดระบบวันเวย์รอบเมือง ดีเดย์ 2 มิ.ย ที่จะถึงนี้ พร้อมจับมือตำรวจเข้มงวดเรื่องจราจร
      
       ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี นายธีระกิจ หวังมุทิตากุล นายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี และคณะทำงานฯ ที่เกี่ยวข้องจากอำเภอเมืองสุราษฏร์ธานี พ.ต.อ.สุวัฒน์ สุขศรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี หัวหน้าจราจรสถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฏร์ธานี หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้จัดแถลงข่าวเรื่องการจัดระเบียบการจราจรเขตพื้นที่เทศบาล เทศบาลนครสุราษฎร์ธานีใหม่ โดยเริ่มทดลองใช้ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป
      
       นายธีระกิจ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องการจราจรในเขต อ.เมือง สุราษฎร์ธานี นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันนี้อยู่ในขั้นวิกฤต ซึ่งที่ประชุมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความคิดเห็นตรงกันว่า จะมีการแก้ไขปัญหาการจราจรโดยการปรับเปลี่ยนเส้นทางจราจร เป็นแบบ ONE WAY หรือแบบเดินรถทางเดียว ในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี โดยเริ่มตั้งแต่บริเวณสี่แยกแสงเพชร บริเวณศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี มาตามถนนดอนนก จนถึงสี่แยกอนามัย สี่แยกธารา เลี้ยวขวามายังสี่แยกวัดธรรมบูชา เลี้ยวขวาอีกครั้งตามถนนชนเกษม มาถึงสี่แยกเทศบาล สี่แยกการุณ แล้วมาบรรจบบริเวณสี่แยกแสงเพชร บริเวณศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี อีกครั้งหนึ่ง
           ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหารถติดตรงจุดแยก และอุบัติเหตุลดลงได้ รวมถึงทำป้ายทางลัดซอยต่างๆ การเพิ่มผิวจราจร รวมถึงการจัดระบบสัญญาณไฟจราจร โดยใช้หลักเกณฑ์จำนวนปริมาณยวดยานเป็นตัวกำหนด ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรที่วิกฤตอย่างมากในเขตเมือง
      
       นายธีระกิจ กล่าวในตอนท้ายว่า นอกเหนือจากการจัดวันเวย์เพื่อแก้ปัญหาจราจรแล้ว การเข้มงวดเรื่องจราจรก็ต้องมีด้วย เพราะสิ่งที่ช่วยเรื่องของการจราจรคือ วินัยจราจร ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญทำให้การจราจรติดขัด วินัยจราจรสอนได้ด้วยการให้ความรู้ แล้วก็ใช้มาตรการในการลงโทษ ถ้าบางคนยังดื้อก็จะมีการบังคับใช้ตามกฎหมาย ในเรื่องการจราจรนั้นจะเอาให้ถูกใจทุกเรื่องไม่ได้ ถูกใจต้องบวกกับถูกต้องด้วย ซึ่งอันนี้ทางตำรวจกับทางเทศบาลต้องพร้อมลงไปทำอย่างเต็มที่
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ผสานกำลังรื้อแนวเขตของกลุ่มผู้มีอิทธิพลกลางทะเลแล้ว


จังหวัดสุราษฎร์ธานีผสานกำลังเข้ารื้อถอนหลักไม้ไผ่ของกลุ่มผู้มี อิทธิพลที่ปักกลางทะเล แต่เจออุปสรรคน้ำทะเลแห้งเรือใหญ่ไม่สามารถเข้าถึง
จากกรณีม็อบชาวประมงพื้นบ้านในจังหวัดสุราษฎร์กว่า 100 ลำ รวมตัวกันปิดร่องน้ำอ่าวบ้านดอน เพื่อเรียกร้องทางจังหวัดเร่งดำเนินการรื้อถอนแนวเขตไม้ไผ่และเสาไฟฟ้าที่ กลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ได้ดำเนินการลักลอบปักทำแนวเขตในพื้นที่ทำการประมง 3,000 เมตรในทะเลที่เป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ เพื่อครอบครองลูกพันธุ์หอยแครงที่เกิดขึ้นในช่วงนี้จำนวนมากนับหมื่นตัน มูลค่านับ 100 ล้านบาท จนทำให้กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านจำนวน 6 ตำบล กว่า 3,000 ลำไม่สามารถออกทำการจับสัตว์น้ำในพื้นที่ดังกล่าวได้ หลังจากทางจังหวัดได้รับข้อเสนอของกลุ่มผู้เรียกร้อง
      
       ล่าสุดในวันที่ 13 พ.ค.55 นายชะลอศักดิ์ วานิชเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ ที่ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัด ประมงอำเภอ ผู้นำชุมชน และชาวบ้าน กว่า 200 คน ลงเรือออกไปทำการรื้อถอนหลักไม้ไผ่ที่ปักทำแนวเขตเพื่อครอบครองพื้นที่จัด เก็บลูกหอยแครง บริเวณพื้นที่หน้าอ่าวลีเล็ด ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน ที่เป็นพื้นที่ที่มีปัญหา แต่การรื้อถอนต้องเจออุปสรรคน้ำทะเลแห้ง เรือขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงเสาหลักได้ ต้องใช้เรือขนาดเล็กจึงทำให้รื้อถอนได้เพียงเล็กน้อยต้องยกกำลังกลับ
      
       ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมผู้ฝ่าฝืนประกาศจังหวัดที่ให้หยุดทำการประมงลาก เก็บหอยแครงในที่หน้าอ่าวลีเล็ด ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน เป็นเวลา 7 วันนับตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคมเป็นต้นมา ได้จำนวน 2 ราย พร้อมยึดเรือและลูกหอยของกลางมาดำเนินคดีที่ สภ.พุนพิน
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

พบศพนักบินแล้วเหตุเรือล่มที่เขื่อนรัชชประภา


พบแล้วศพกัปตันสายการบินอีวาแอร์ หลังประสบอุบัติเหตุเรือชนขอนไม้ล่มในเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาค้นหานานกว่า 6 ชั่วโมง
          สำหรับความคืบหน้าการค้นหา Mr.Cry กัปตันสายการบินอีวาแอร์ นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันซึ่งสูญหายจากเหตุเรือล่มในเขื่อนรัชชประภา บริเวณบ้านปากคลองเอก ม.3 ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน พื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (10 พ.ค.55)
           ในที่สุด การระดมกำลังค้นหาร่างผู้สูญหายของเจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆ อย่างเต็มที่ ทำให้สามารถพบร่างของ Mr.Cry จมอยู่ใต้น้ำลึก 50 เมตร ภายในเขื่อนดังกล่าว ซึ่งการค้นหาในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการค้นหานานกว่า 6 ชั่วโมง ก่อนที่จะยุติการค้นหาเพียงเล็กน้อย
           โดยเจ้าหน้าที่ที่ลงไปค้นหา กล่าวว่า การค้นหาเป็นไปด้วยความลำบาก ต้องดำน้ำลึกลงไปประมาณ 50 เมตร สภาพใต้น้ำขุ่น เป็นป่ารก แต่ก็ใช้มือคลำลงไปจนไปเจอร่างของผู้เสียชีวิตจึงนำกลับขึ้นมา โดยเจออยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 15 เมตร
      
       หลังจากนำศพกลับเข้ามาถึงฝั่ง เจ้าหน้าที่ได้นำศพ Mr.Cry ส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลบ้านตาขุน เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้ง ก่อนประสานสถานทูตเพื่อนำศพกลับประเทศต่อไป
      
       จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ในละแวกดังกล่าว ทราบว่าเรือวิ่งไปในคลอง มีสภาพไม่กว้างมากนัก คดเคี้ยว โดยเรือวิ่งไปตามโค้งน้ำชนกับตอไม้ใต้เขื่อน จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และเห็นว่าผู้ตายจมน้ำแล้วโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำก่อนที่จะจมหายไป คาดว่าร่างคงไปกระแทกกับของแข็งอย่างแรงจึงไม่สามารถช่วยตัวเองได้
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ปัญหาชาวประมงพื้นบ้านที่สุราษฎร์ฯบานปลายล่าสุดรวมตัวปิดอ่าว


ปัญหากลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร้องเรียนถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลบานปลายไม่พอใจภาครัฐ รวมตัวนำเรือกว่า 100 ลำปิดปากอ่าวบ้านดอนส่งผลให้การเดินเรือเป็นอัมพาต
          วันที่ 11 พ.ค.55 จากกรณี ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านจาก ตำบลคลองฉนาก ตำบลบางชนะ ตำบลบางไทรตำบลบางโพธิ ตำบลบางกุ้ง และ ตำบลลีเล็ดในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวนกว่า 100 คน ยื่นข้อเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อฝ่ายความมั่นคงภายในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ดำเนินการเรื้อถอนแนวเขต ทำการปลดอาวุธของฝ่ายกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ และคุ้มครองความปลอดภัยชาวประมงพื้นบ้าน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
          ล่าสุดสถานการณ์บานปลาย กลุ่มชาวประมงได้รวมตัวกันนำเรือหางยาวปิดปากร่องน้ำอ่าวบ้านดอนตั้งแต่เวลา 14.00 น.เป็นต้นมา ทำให้การจราจรทางน้ำเป็นอัมพาตโดยสิ้นเชิง พร้อมกับเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลงมารับปากกับชาวบ้าน หากไม่ลงมาจะไม่ยินยอมเปิดร่องน้ำโดยเด็ดขาด
          นขณะที่นายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางแก้ไข แต่ยังหาข้อสรุปยังไม่ได้
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

2 โจรปล้นทำร้ายสาวใหญ่แม่ค้าขายต้นไม้ชิงทองหนัก 6 บาท และเงินสด


อุกอาจ 2 โจรบุกปล้นทำร้ายสาวใหญ่แม่ค้าขายต้นไม้ ชิงสร้อยทองคำหนัก 6 บาท พร้อมเงินสดกว่า 30,000 บาท หลบหนีลอยนวล
      
       เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 11 พ.ค.55 พ.ต.อ.สุวัฒ สุขศรี ผกก. สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายจำนวน 2 คน อายุประมาณ 20 ปี ได้ใช้รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่นฟี่โน่ สีม่วง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับมาจอดที่บริเวณหน้าร้านขายต้นไม้ ไม่มีเลขที่ ถนนกาญจนดิษฐ์ เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี โดยทั้งคู่ทำทีไปขอซื้อต้นไม้ จากนางยามีนะ มีซาร์ อายุ 42 ปี เจ้าของร้าน
          ขณะที่เจ้าของร้านก้มลงหยิบกระถางต้นไม้ ทั้ง 2 คน ได้แสดงเป็นคนร้าย ใช้ท่อนไม้ทุบที่บริเวณศีรษะด้านหลัง จนนางยามียะสลบคาที่ แล้วปลดสร้อยคอทองคำรูปพรรณพร้อมจี้ทอง น้ำหนักรวม 6 บาท พร้อมปลดกระเป๋าคาดเอวที่มีเงินสดกว่า 30,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สมุดฝากเงิน 3 ฉบับ บัตรเคดิตร 2 ใบ รวมมูลค่าทรัพย์สินเกือบ 200,000 บาท แล้วขับรถหลบหนีไปตามเส้นทางอำเภอกาญจดิษฐ์อย่างลอยนวล
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ชาวประมงพื้นบ้านสุราษฎร์ฯ ร้องถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลคุกคาม


กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านกว่า 100 คนใน จ.สุราษฎร์ธานี รวมตัวร้องขอความเป็นธรรม กรณีถูกผู้มีอิทธิพลบุกรุกปักเขตแนวครอบครองพื้นที่อ่าวบ้านดอนที่เป็น พื้นที่สาธารณะประโยชน์ ส่งผลให้ชาวประมงพื้นบ้านหลายพันครัวเรือนเดือดร้อนหนัก ไม่สามารถออกทะเลจับสัตว์น้ำได้
          วันที่ 11 พ.ค.55 ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านจาก ตำบลคลองฉนาก ตำบลบางชนะ ตำบลบางไทร ตำบลบางโพธิ์ ตำบลบางกุ้ง และตำบลลีเล็ด ในพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวนกว่า 100 คน ได้รวมตัวกันที่บริเวณริมคลองหน้าวัดนทีคมเขต ม.4 บ้านสะบ้าย้อย ตำบลคลองฉนาก อำเภอเมือง พร้อมยื่นหนังสือเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อพ.อ.สัมฤทธิ์ ศุภรางกรู รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
            เพื่อเรียกร้องให้เร่งแก้ไขปัญหากลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อำเภอ พุนพิน อำเภอเมือง ที่นำไม้ไผ่และเสาไฟฟ้าลงไปปักหลักกันแนวเขต แบ่งกันครอบครองพื้นที่ในทะเลอ่าวบ้านดอน จากบริเวณแนวเขตรอยต่ออำเภอท่าฉาง อำเภอพุนพิน และพื้นที่อำเภอเมืองบางส่วน จำนวนหลายหมื่นไร่ หลังจากมีลูกพันธุ์หอยแครงเกิดขึ้นตามธรรมชาติจำนวนมาก พร้อม ใช้เครื่องมือทำการประมงที่ผิดกฎหมายลากจับขึ้นมาขาย และสั่งห้ามชาวประมงพื้นบ้านเข้าไปดำเนินการใดๆ ในพื้นที่ครอบครอง ส่งผลกระทบให้ชาวประมงพื้นบ้านจำนวนหลายพันครัวเรือนไม่สามารถออกจับสัตว์ น้ำมาดำรงชีพได้ หากผู้ใดผ่าฝืนออกทำการประมงจะถูกกลุ่มผู้ติดอาวุธสงครามเข้ามาไล่ยิงข่มขู่ ทำร้ายร่างกายทันที จนเป็นที่หวาดกลัวของชาวประมงในพื้นที่
          ด้านพ.อ.สัมฤทธิ์ ศุภรางกรู รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังจากรับหนังสือร้องเรียนแล้ว ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดออกทะเลตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที เพื่อดำเนินการกวาดล้างจับกุมต่อไป ทางกลุ่มผู้ชุมนุมพอใจจึงสลายตัวไป แต่ก่อนที่จะสลายตัวแกนนำได้ระบุว่า หากไม่มีความคืบหน้าจะนัดรวมตัวปิดอ่าวบ้านดอนเพื่อทำการกดดันให้ทางจังหวัด ดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อกลุ่มผู้มีอิทธิพลต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เร่งค้นหากัปตันไต้หวันสูญหายจากเหตุเรือจมที่เขื่อนรัชชประภา


เจ้า หน้าที่ยังค้นหากัปตันสายการบินอีวาแอร์ ชาวไต้หวัน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่ประสบอุบัติเหตุเรือล่มพร้อมกับเพื่อนชาวสิงคโปร์ ในเขื่อนรัชชประภา ล่าสุดยังไม่ทราบชะตากรรม

       จากกรณีเหตุเรือนำเที่ยวล่มในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนรัชชประภา บริเวณบ้านปากคลองเอก ม.3 ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน พื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 พ.ค.55  มีผู้สูญหายไป 1 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และได้รับบาดเจ็บ 1 คน ล่าสุด ได้รับการยืนยันจาก ร.ต.ท.สมเกียรติ น้อยแมน สาวัตรตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่า ผู้สูญหายจากเหตุเรือล่มในครั้งนี้ ชื่อนายคราย อายุ 47 ปี เป็นชาวไต้หวัน มีตำแหน่งเป็นกัปตันเครื่องบินสายการบินอีวาแอร์ ที่เดินทางเข้ามาพักผ่อนพร้อมเพื่อนชาวไต้หวัน และชาวสิงคโปร์ รวมทั้งคนไทย รวม 6 คน ซึ่งขณะนี้ในส่วนของผู้สูญหายยังไม่ทราบชะตากรรม
            นายเชิดศักดิ์ ชูศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สั่งระดมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาสก เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าคลองแสง ตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยนักประดาน้ำจากมูลนิธิกุศุลศรัทธาสุราษฎร์ธานี เข้าทำการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ และค้นหาผู้สูญหายอย่างเต็มที่ แต่การค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากจุดเกิดเหตุต้องนั่งเรือออกจากฝั่งไปประมาณ 1 ชั่วโมง และเวลาใกล้ค่ำ และระดับน้ำลึกประมาณ 20 เมตร
      
       ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายอดิพงศ์ วิเชียรแก้ว อายุ 24 ปี คนขับเรือที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีแล้ว
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

บุกค้นเรือนจำ 3 แห่งที่สุราษฎร์ฯ พบโทรศัพท์-ยาเสพติดเพียบ


ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี สนธิกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 700 นาย จู่โจมบุกตรวจค้นเรือนจำ 3 แห่ง พบโทรศัพท์มือถือ ซิมการ์ด ยาเสพติด อุปกรณ์การเสพ บัญชีการโอนเงินหมุนเวียนวันละ 1-2 ล้านบาท พร้อมทั้งสิ่งของต้องห้ามเพียบ และสุ่มตรวจปัสสาวะผู้ต้องขังพบสีม่วงจำนวนมาก
           วันที่ 10 พ.ค.55 เมื่อเวลา 05.30 น. นายเชิดศักดิ์ ชูศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.วิฑุร ธรรมรักษา ผบก.จังหวัดสุราษฎร์ธานี, นายพีระ กาญจนพงศ์ ผอ.ปปส.ภาค 8, นายสุชิน ดำกระเด็น ผบ.เรือนจำกลางจังวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำกำลังฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตชด. ที่ 417 ปปส.ภาค 8 ตำรวจน้ำ อส. และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดกว่า 700 นาย บุกเข้าตรวจค้นเรือนจำกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรือนจำจังหวัดไชยา และเรือนจำจังหวัดเกาะสมุย
      
       จากการตรวจค้นเรือนจำกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นเรือนจำที่ใหญ่ที่สุดใน จ.สุราษฎร์ธานี ขณะตรวจค้นมีผู้ต้องขังรวมทั้งสิ้น 2,573 คน ได้กระจายกำลังตรวจค้นตามแดนเรือนนอนชาย แดนเรือนนอนหญิง บริเวณโรงงาน ห้องสมุด โรงสูทกรรม และบริเวณอื่นๆ ทั่วไปในเรือนจำ ผลการตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง และซิมการ์ด 3 ซิม, สมุดจดหมายเลขบัญชีธนาคาร 1 เล่ม, ไพ่ประดิษฐ์ 1 สำรับ, เหล็กแหลม 5 อัน, อุปกรณ์การเสพยาเสพติด จำนวนหนึ่ง สุ่มตรวจปัสสาวะผู้ต้องขัง จำนวน 208 คน ผลเป็นบวกห รือมีสีม่วงจำนวน 32 คน
          ส่วนผลการตรวจค้นที่เรือนจำจังหวัดเกาะสมุย ขณะตรวจค้นมีผู้ต้องขังจำนวน 553 คน เป็นชาย 401 คน หญิง 152 คน ไม่พบสารเสพติด สุ่มตรวจปัสสาวะผู้ต้องขังผลเป็นบวกมี 2 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องขังใหม่ที่เพิ่งไปอยู่ในเรือนจำเมื่อวันที่ 6 พ.ค.กับ 8 พ.ค.55
      
       ขณะที่ผลการตรวจค้นที่เรือนจำจังหวัดไชยา มีผู้ต้องขัง 600 คน พบโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง เหล็กแหลม 10 อัน เข็มฉีดยา 1 อัน อุปกรณ์การเสพยาเสพติด 1 ชุด วัตถุต้องสงสัยมีลักษณะคล้ายยาไอซ์ จำนวน 1 ถุง รอการตรวจสอบ
            ส่วนโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง ซิมการ์ด จำนวน 3 อัน อุปกรณ์การชาร์จโทรศัพท์ และ อุปกรณ์การเสพยาไอซ์จำนวนมาก นอกจากนั้น ยังพบบัญชีหมายเลขโทรศัพท์และบัญชีการโอนเงินที่มีกระแสการเงินหมุนเวียนวัน ละ 1-2 ล้านบาท พร้อมสิ่งของต้องห้ามจำพวก บุหรี่ ไฟแช็ก เหล็กแหลม มีดพก คัตเตอร์ อีกจำนวนมาก
      
       ซึ่งสิ่งของที่ค้นพบส่วนใหญ่ค้นพบภายในเรือนนอน 3 ที่เป็นเรือนนอนความมั่นคงสูง ของเรือนจำกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นอยู่นั้น ปรากฏว่า มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เจ้าหน้าที่หาอยู่สักพักจึงพบว่าโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวถูกซุกซ่อนอยู่ใน หนังสือเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ และโดยเฉพาะการตรวจปัสสาวะผู้ต้องขังผู้ต้องขังเรือนนอน 3/3 ที่มีผู้ต้องขังจำนวน 82 คน พบสีม่วงถึง 30 คน
      
       นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นเรือนนอนหญิงพบจดหมายของผู้ต้องขังหญิงที่ชื่อส้มได้ เขียนจดหมายให้ผู้ปกครองนำโทรศัพท์เข้ามาให้ในวันเยี่ยมญาติที่เรือนจำจะจัด ขึ้นในเดือนสิงหาคม พร้อมแนะนำวิธีการนำเข้าเรือนจำให้ผู้ปกครองอีกด้วย
           หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำของกลางทั้งหมดมาแถลงข่าวพร้อมระบุว่า ทางจังหวัดจะดำเนินการกดดันตรวจค้นเรือนจำอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสั่งการให้ทำการสอบสวนขยายผลจากของกลางที่พบ เพื่อดำเนินการติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป พร้อมเตรียมคัดแยกผู้ต้องขังที่พบการกระทำความผิดไปฝากขังยังที่อื่น และเตรียมของบประมาณจัดสร้างเรือนจำเพิ่มในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ เพื่อแยกขังผู้ต้องขังคดียาเสพติด ประกอบกับเรือนจำกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ในใจกลางชุมชนเมืองยากแก่การป้องกันขบวนการค้ายาเสพติด
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ตร.สุราษฎร์ฯ รวบเครือข่ายค้ายาเสพติดเรือนจำ ยึดยาไอซ์กว่า 1 กก.


เจ้าหน้าที่ตำรวจสุราษฎร์ ธานีบุกรวบแก๊งค้ายาเสพติดเครือข่ายเรือนจำนครศรีธรรมราช ยึดยาไอซ์กว่า 1 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท พร้อมผู้ต้องหา 4 คน เตรียมขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการ
           ที่ สภ.กาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.วิฑุร ธรรมรักษา ผบก.จังหวัดสุราษฎร์ธานี, พล.ต.ต.วีระศักดิ์ มีนะวานิชย์ ผบก.สืบสวน ภาค 8, พ.ต.อ.พรศักดิ์ นวลหนู รอง ผบก.สุราษฎร์ธานี, พ.ต.อ.ดาวลอย เหมือนเดช รอง ผบก.สืบสวน ภาค 8 พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ และ พ.ต.อ.นพดล ถิรประวัติ ผกก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดเครือข่ายเรือนจำกลางจังหวัดนครศรี ธรรมราช จำนวน 4 คน
      
       ประกอบด้วย น.ส.รัตตินาฎ ปลอดช่วย อายุ 31 ปี อยู่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 9 ต.กะแดะ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี, นายมนชัย ชูเมฆ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 หมู่ที่ 9 ต.กะแดะ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี, นายพิสิฐ ประเสริฐสังข์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ที่ 3 ต.ท่าเคย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี และ นายคณิศรณ์ ธารมา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169 หมู่ที่ 1 ต.ท่าฉาง อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลางเป็นยาไอซ์น้ำหนักว่า 1 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
           เจ้าหน้าที่ได้เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดมีพฤติกรรมนำยาเสพติดมาจำหน่ายให้กลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มผู้ใช้แรงงานในพื้นที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ ทางเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนขยายผลติดตามจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี ต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

พ่อเมืองสุราษฎร์ฯ คนใหม่ลงสมุย กำชัับเร่งแก้ปัญหายาเสพติด และแมลงศัตรูพืช


ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีลงสมุย มอบนโยบายและการปฏิบัติงานของส่วนราชการในพื้นที่ให้ทำงานสอดคล้องกัน พร้อมกำชับให้เร่งแก้ปัญหายาเสพติดในกลุ่มวัยรุ่น และปัญหาแมลงศัตรูพืช 
          เมื่อวันที่ 8 พ.ค.55 นายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่อำเภอเกาะสมุย เพื่อมอบนโยบาย และการปฏิบัติงานของส่วนราชการในพื้นที่ ให้ทำงานให้สอดคล้องกัน รวมทั้งรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ พร้อมร่วมกันประชุมเพื่อหาทางแก้ไข โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดในพื้นที่อำเภอเกาะสมุยที่มีการแพร่ระบาดอย่างมาก
      
       นายเชิดศักดิ์ กล่าวกำชับให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องออกตรวจตรา และควบคุมปัญหายาเสพติดในพื้นที่อย่างจริงจัง โดยเฉพาะในกลุ่มของนักเรียน นักศึกษา และเยาวชนในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย
           นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังกล่าวถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเมลงศัตรูพืชมะพร้าว ที่สร้างความเสียหายให้แก่ต้นมะพร้าวในพื้นที่อำเภอเกาะสมุยอย่างมากว่า ให้ประกาศให้อำเภอเกาะสมุยเป็นพื้นที่ภัยพิบัติของการแพร่ระบาดของแมลงศัตรู พืช พร้อมนำหน่วยงานวิชาการเร่งหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

สุราษฎร์ฯ ประกาศ 5 อำเภอเป็นเขตภัยพิบัติ หลังแมลงศัตรูพืชระบาดหนัก


จังหวัดสุราษฏร์ฯ พบแมลงศัตรูพืช จำพวกแมลงดำหนาม หนอนหัวดำ ด้วงแรด และด้วงงวง ระบาดหนักในพื้นที่ 5 อำเภอ ประกาศเขตภัยพิบัติเฉพาะพื้นที่
      
       นายชลอศักดิ์ วาณิชเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เผยว่า ได้ประชุมคณะทำงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางการกำจัดการแพร่ระบาดของแมลงศัตรูพืช จำพวก แมลงดำหนาม หนอนหัวดำ ด้วงแรด และด้วงงวง หลังได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบว่า ได้มีการแพร่ระบาดของแมลงศัตรูพืชดังกล่าว ก่อให้เกิดความเสียหายด้านพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะสวนมะพร้าว ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากผลผลิตลดลงเป็นจำนวนมาก
      
       ทั้งนี้ จากรายงานของหน่วยงานต่างๆ พบว่า การแพร่ระบาดของแมลงศัตรูพืชมีจำนวน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เกาะสมุย พื้นที่ทางการเกษตร โดยเฉพาะสวนมะพร้าว เสียหายแล้วจำนวน 6,050 ไร่ อ.ท่าชนะ พื้นที่ทางการเกษตรเสียหายประมาณ 500 ไร่ อ.กาญจนดิษฐ์ พื้นที่ทางการเกษตร เสียหายประมาณ 1,830 ไร่ อ.พุนพิน พื้นที่ทางการเกษตรเสียหายประมาณ 70 ไร่ และ อ.เมือง พื้นที่ทางการเกษตร ได้รับความเสียหายประมาณ 1,030ไร่ รวมพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายประมาณกว่า 9 พันไร่
      
       ทั้งนี้ ในส่วนของการป้องกันและแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น จะเสนอเรื่องถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฏร์ธานี ประกาศเขตภัยพิบัติเฉพาะพื้นที่ เพื่อใช้งบประมาณเร่งด่วนได้ทันที พร้อมทั้งทำการให้ความช่วยเหลือเป็นเงินเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติ รวมทั้งติดตามผลการดำเนินการความคืบหน้า
      
       สำหรับปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของแมลงศัตรูพืช นับเป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ไข หากการแพร่ระบาดรุนแรงขึ้น อาจทำให้ภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวอย่างเช่น เกาะสมุย และเกาะพะงันเสียหาย ในขณะที่แนวทางการป้องกันและกำจัดในปัจจุบัน ได้แก่ การตัดทางใบที่พบหนอนมาเผาทำลาย พบว่าการปฏิบัติค่อนข้างยุ่งยาก ส่วนการใช้สารเคมีกำจัด อยู่ระหว่างการศึกษา และอีกวิธีคือการใช้แตนเบียน หรือหนอนหัวดำจากประเทศอินเดียกำจัด
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์