วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ตำรวจน้ำสุราษฎร์ฯ รวบเอเยนต์สาววัย 26 ปีค้ายาบ้า พร้อมของกลาง 7,000 เม็ด



 เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำสุราษฎร์ฯ จับสาววัย 26 ปี เอเยนต์ค้ายาบ้า พร้อมของกลาง 7,000 เม็ด หลังขยายผลจากการจับกุมผู้ค้ายารายย่อย อ้างรับออเดอร์จากนักโทษเรือนจำบางขวาง
      
       วันที่ 16 ส.ค.56 เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจน้ำสุราษฎร์ฯ สามารถรวบ 2 สาวนักค้ายาเสพติด หลังจากจับกุมผู้ค้ายารายย่อย และนำมาขยายผลจนถึงเอเยนต์รายใหญ่ที่ตระเวนส่งขายในอำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และพื้นที่ใกล้เคียง โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนางวนิดา หนูรักษ์ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 19/9 ม.5 ต.ทุ่งเตาใหม่ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมยาบ้า 5 เม็ด ขณะที่นำยามาส่งให้สายลับ
      
       จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขยายผลเพิ่มเติม จนสามารถตามจับ น.ส.สายใจ เต็มวิจิตร อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 23/282 ม.2 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี หลังลักลอบนำยามาส่งให้สายลับ จำนวน 200 เม็ด จึงแสดงตัวจับกุม และสอบสวนจนทราบว่า มียาเสพติดซุกซ่อนไว้อีกที่บ้านที่อาศัยอยู่ จึงเข้าตรวจค้นพบยาบ้าอีก 7,000 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวดำเนินคดี พร้อมยึดรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำผิด และทรัพย์สินที่คาดว่าได้มาจากการค้ายาเสพติด รวมมูลค่ารวม 4 ล้านบาท
      
       เบื้องต้น ผู้ต้องให้การสารภาพว่า เป็นยาเสพติดของตนจริง จึงตั้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย นอกจากนั้น ผู้ต้องหายังอ้างว่า รับออเดอร์จากผู้ต้องขังเรือนจำบางขวาง ซึ่งเจ้าหน้ายังไม่ปักใจเชื่อ โดยจะดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไป


ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ประชุมท่องเที่ยวโลกเวทีเอเปกคุยช่วยโชว์ศักยภาพเกาะสมุย



 เปิดอย่างเป็นทางการแล้วกับการประชุมด้านการท่องเที่ยวระดับโลก ในเวทีเอเปก ครั้งที่ 43เรื่อง Low Carbon Tourism towards Green Growth ที่เกาะสมุย เผยเป็นครั้งแรกไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ขณะที่คณะทำงานเอเปกได้พิจารณาเกาะสมุย เป็น 1 ใน 3 ของโลกเข้าร่วมโครงการลดคาร์บอน 

          วันที่ 14 ส.ค.56. นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดการประชุมด้านการท่องเที่ยวระดับโลก ในเวทีเอเปก ครั้งที่ 43 ณ โรงแรมเลอเนสซองส์ เกาะสมุย รีสอร์ทแอนด์สปา โดยมีการจัดการประชุมระหว่างวันที่ 12-17 สิงหาคม 2556 โดยมีกลุ่มประเทศเอเปกเข้าร่วมทั้งหมด 21ประเทศ เน้นการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยจัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง Low Carbon Tourism towards Green Growth
      
       นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่เป็นเจ้าภาพการจัดประชุมคณะทำงานด้านการท่องเที่ยวเอเปก ซึ่งคณะทำงานด้านการท่องเที่ยวเอเปกได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวของอเปค พ.ศ.2555-2556 เพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินงานในอนาคต โดยผ่านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฎิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) ตามเป้าหมาย 4 ประการ ได้แก่ การท่องเที่ยวในฐานะกลไกสำคัญในการเติบโต และความมั่งคั่งในภูมิภาคเอเปก การเติบโตอย่างเท่าเทียมของอุตสาหกรรมการเดินทาง และการท่องเที่ยว ความยั่งยืนของธุรกิจท่องเที่ยว และแหล่งท่องเที่ยว และการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเปก
           “คณะทำงานเอเปกได้พิจารณาแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมซึ่งติดอันดับของโลก เข้าร่วมโครงการลดคาร์บอน ซึ่งมี 3 เมือง ประกอบด้วย เกาะสมุย เทียนจิน และดานัง ซึ่งอยู่ในภูมิภาคเอเชีย โดยหากเกาะสมุย สามารถลดคาร์บอนได้ก็จะเป็นการลดภาวะโลกร้อน ซึ่งรัฐบาลก็มีนโยบายในเรื่องนี้ จะสังเกตได้ว่า ทางกระทรวงพลังงาน ก็พยายามมุ่งเน้น ในเรื่องของการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และในพื้นที่เกาะของจังหวัดสุราษฎร์ธานีก็มีก็ตัวอย่าง ในเรื่องของกรีนไอร์แลน อย่างเช่น เกาะพลวย ในหมู่เกาะอ่างทองนี้ก็เป็นเกาะตัวอย่าง เพราะฉะนั้น การที่เอเปกเลือกเกาะสมุยเข้าร่วมโครงการก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่รัฐบาลจะต้องพยายามส่งเสริม และก็แก้ปัญหาในเรื่องของคาร์บอนที่จะแก้ไขเรื่องสภาวะแวดล้อม วันนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็ได้มาร่วมดำเนินการเพื่อที่จะได้เสนอปัญหาทั้งหมดเสนอต่อรัฐบาลเพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไปนายสมศักย์ กล่าวและว่า สำหรับการจัดรับชุมในพื้นที่อำเภอเกาะสมุยในครั้งนี้ จะเป็นการแสดงความสามารถและศักยภาพของประเทศในการจัดการประชุมด้าน การท่องเที่ยวในเวทีระดับโลก และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยด้านความปลอดภัยในการประชุมระดับโลก พร้อมกันนี้ เกาะแก่ง และหาดทรายที่สวยงามของจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมไปถึงศูนย์รวมของศิลปวัฒนธรรมชาวปักษ์ใต้ รวมทั้งสินค้าด้านการท่องเที่ยวที่หลากหลาย ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่จะส่งเสริมสินค้าท่องเที่ยวสีเขียว และวัฒนธรรมของไทยให้เป็นที่รู้จักของทั่วโลกต่อไป


ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สนามบินสุราษฎร์ฯ เปิดบริการตามปกติ หลังโอเรียนท์ไทยร่อนลงฉุกเฉิน



จากกรณีที่เครื่องบินเช่าเหมาลำโอเรียนท์ไทย ส่งสัญญาณขอลงฉุกเฉินที่บริเวณสนามบินสุราษฎร์ฯ ล่าสุด ยังคงรอให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และซ่อมแซมบริเวณล้อ และยางที่ได้รับความเสียหาย ขณะที่นักท่องเที่ยวกลับมาใช้บริการสนามบินตามปกติ
      
       วันที่ 1 ส.ค.56 ที่สนามบินสุราษฎร์ธานี บรรยากาศภายในท่าอากาศยานฯ ยังคงมีผู้โดยสารทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาใช้บริการกันตามปกติ ประกอบกับยังมีเครื่องบินจากสายการบินต่างๆ คอยให้บริการประชาชนทั่วไป รวมทั้งนักท่องเที่ยว ภายหลังจากเมื่อช่วงค่ำวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระทึกเครื่องบินเช่าเหมาลำของ บริษัท โอเรียนท์ ไทย แอร์ไลน์ จำกัด สายการบินจากประเทศจีน ที่รับผู้โดยสารทั้งหมด 130 คน และลูกเรือ จำนวน 9 คน รวมทั้งหมด 139 คน ขอลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุราษฎร์ธานี พร้อมกับเกิดเหตุล้อเครื่องบินมีเพลิงลุกไหม้จนยางล้อหน้าระเบิด 2 เส้น ขณะเข้าลานจอด แต่โชคดีไม่มีผู้โดยสารเสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดนั้น
      
       ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางสนามบินสุราษฎร์ธานี ได้นำเครื่องบินลำดังกล่าวมาจอดในทางทิศตะวันออกของสนามบิน เพื่อรอผู้เชี่ยวชาญจากกรมการบินพลเรือน และเจ้าหน้าที่ทางบริษัทฯ ลงมาตรวจสอบ และซ่อมแซม เบื้องต้นสภาพล้อ และยางได้ความเสียหายหนัก จนทำให้เครื่องบินยังไม่สามารถใช้งานได้ 


ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ตร.สายตรวจ สภ.บ่อผุด เข้าระงับเหตุคนคลุ้มคลั่ง พลาดท่าถูกแย่งปืนยิงดับ



ตำรวจสายตรวจ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย พลาดท่าถูกคนร้ายแย่งปืนพกยิงดับ ขณะเข้าระงับเหตุชายคลุ้มคลั่งถือมีดไล่ทำร้ายชาวบ้าน ส่วนตำรวจอีกนาย ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงอาการสาหัส ส่วนคนร้ายชาวบ้านช่วยกันจับตัวได้

           เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 20 ก.ค.56 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงตำรวจเสียชีวิตคาที่ 1 นาย จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ตรวจสอบเป็นปั๊มน้ำมัน ปตท. ของ หจก.พงษ์พรการปิโตรเลียม ตั้งอยู่เลขที่ 136 หมู่ 2 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พบศพ ด.ต.ธนวัฒน์ ชูสม อายุ 36 ปี ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.บ่อผุด นอนเสียชีวิตอยู่ภายในปั๊ม นอกจากนั้น ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 นาย ซึ่งมีพลเมืองดีนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุชาวบ้านได้ช่วยกันจับตัวได้
           จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากคนร้าย ซึ่งทราบชื่อภายหลังคือ นายโฆสิทธิ์ ไชยเพชร อายุ 36 ปี เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ใช้มีดสปาต้าไล่ฟันชาวบ้านในปั๊มน้ำมันดังกล่าว ชาวบ้านจึงได้แจ้งตำรวจสายตรวจให้เข้ามาระงับเหตุ โดย ด.ต.ธนวัฒน์ ชูสม อายุ 36 ปี ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.บ่อผุด เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้เข้าไปพูดคุยให้คนร้ายวางมีด แต่คนร้ายไม่ยอม และพยายามจะเข้ามาทำร้าย ด.ต.ธนวัฒน์ จึงได้ชักอาวุธปืนพกประจำกาย ขนาด 9 มม. ยิงขู่ขึ้นฟ้าไป 1 นัด
          แต่ปรากฏว่า ยิ่งทำให้คนร้ายเกิดอาการคลุ้มคลั่งมากขึ้น พุ่งเข้าไปยื้อแย่งปืนตำรวจ และสามารถแย่งปืนตำรวจมาได้จึงหันปืนรัวยิงใส่ ด.ต.ธนวัฒน์ ไม่ยั้ง 12 นัดซ้อน ส่งผลให้ ด.ต.ธนวัฒน์ เสียชีวิตคาที่ทันที หลังจากนั้นคนร้ายยังไม่หยุดก่อเหตุ ยังใช้มีดแทงเข้าที่หน้าท้องของ ด.ต.พรเทพ พงษ์สาณุวัตร อายุ 38 ปี ผบ.หมู่งานปราบปราม ที่มาด้วยกันได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย เบื้องต้น พลเมืองดีได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลไทยอินเตอร์แล้ว
          ขณะเดียวกัน คนร้ายถูกชาวบ้านที่อยู่ในละแวกดังกล่าวช่วยกันจับตัวไว้ได้ และนำตัวส่ง สภ.บ่อผุด แล้ว เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าคนร้ายมีประวัติติดยาเสพติด และมีคดีฆ่าคนตายหลายคดี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ชาวสวนยางสุราษฎร์ฯ กว่า 300 คน ชุมนุมเรียกร้องรัฐแทรกแซงราคา 101 บาท



 เกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดสุราษฎร์ธานีกว่า 300 คน ชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแทรกแซงราคายางพาราในราคา 101 บาทต่อกิโลกรัม หลังราคาตกต่ำอย่างต่อเนื่อง
      
       เวลา 13.00 น. วันที่ 19 ก.ค.56 ที่สหกรณ์สุราษฎร์ธานี (โค-อ๊อฟ) เกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี กว่า 300 คน ที่นำโดย นายเสงียบ เกิดสมบัติ นายมนูญ อุปรา นายกิตติศักดิ์ วิโรจน์ นายพิเชษ เกิดสมบัติ เป็นแกนนำมาชุมนุมเรียกแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำอย่างต่อเนื่อง
      
       ซึ่งแกนนำระบุว่า วันนี้ราคายางแผ่นดิบอยู่ที่ 70 บาทต่อกิโลกรัม แต่ราคาต้นทุนการผลิตอยู่ที่กิโลกรัมละ 76 บาท ทำให้เกษตรกรชาวสวนยางได้รับความเดือดร้อน ทางผู้ชุมนุมได้เรียกร้องให้รัฐบาลแทรกแซงรับซื้อยางพาราแผ่นชั้น 3 ในราคา 101 บาทต่อกิโลกรัม ยางแผ่นดิบคุณภาพ 3 ราคากิโลกรัมละ 92 บาท น้ำยางสด ราคา 81 บาทต่อกิโลกรัม ยางก้อนถ้วย 100 เปอร์เซ็นต์ ราคา 83 บาทต่อกิโลกรัม โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีเดินทางรับหนังสือข้อเรียกร้อง และจะทำการสลายตัวไป หากเพิกเฉยจะไม่ยอมสลายตัว
      
       ต่อมา เมื่อเวลา 16.00 น. นายชะลอศักดิ์ วานิชเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เดินทางมารับหนังสือข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมรับปากเร่งนำเสนอต่อรัฐบาล กลุ่มผู้ชุมนุมพอใจสลายตัวไป พร้อมระบุว่าในวันที่ 24 กรกฎาคม เกษตรกรชาวสวนยางพาราทั่วประเทศจะออกมาเคลื่อนไหวพบผู้ว่าราชการในจังหวัดนั้นๆ เพื่อกดดันรัฐบาล และในวันที่ 1 สิงหาคม จะรวมตัวบุกเข้าไปยังทำเนียบรัฐบาล


ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สุราษฎร์เตรียมจัดเทศกาลงานเงาะโรงเรียน กระตุ้นการท่องเที่ยว



 เตรียมจัดเทศกาลงานเงาะโรงเรียนที่มีชื่อเสียงและเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นส่งเสริมการท่องเที่ยวและประชาสัมพันธ์ผลไม้ทุกชนิด คาดว่า ประชาชนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจจำนวนมากเหมือนทุกปี
      
       วันที่ 18 ก.ค.56 นายชลอศักดิ์ เจียรวานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิดงานแถลงข่าวเทศกาลเงาะโรงเรียนนาสาร ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 กรกฎาคม ถึง 2 สิงหาคมนี้ ที่ บริเวณ ริมคลองเฉวง อ.บ้านนาสาร ซึ่งทางจังหวัดสุราษฎร์ฯ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเทศบาลเมืองนาสาร พร้อมเกษตรกรชาวสวนเงาะในอำเภอบ้านนาสาร ร่วมใจกันจัดงานขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอบ้านาสาร รวมทั้งประชาสัมพันธ์ผลไม้ที่มีชื่อเสียงและเป็นเอกลักษณ์ของอำเภอบ้านนาสาร เช่น เงาะโรงเรียน มังคุด ลองกอง ทุเรียน สละ
      
       ซึ่งทางเกษตรกรได้นำผลไม้จากสวนมาจัดจำหน่ายให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวในราคาเดียวกับขายส่ง ตลอดจนแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติอันสวยงามของอำเภอบ้านนาสารให้แพร่หลาย และเป็นส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามให้คงอยู่ตลอดไป
      
       สำหรับการจัดกิจกรรมที่จัดขึ้นภายในงานเทศกาลเงาะโรงเรียนนาสารในปีนี้ประกอบด้วย การประกวดขบวนแห่รถพฤกษชาติ การประกวดการดูแลรักษาสวนไม้ผลต่างๆ การจัดทัวร์สวนผลไม้ เที่ยวไปชิมไป ตลอดจนกิจกรรม การทำขวัญเงาะโรงเรียนนาสาร


ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ชาวสวนปาล์มสุราษฎร์ฯ เตรียมเคลื่อนไหวหลังหมดโครงการพยุงราคายางพารา


สมาคมชาวสวนปาล์มสุราษฎร์ธานี เตรียมเคลื่อนไหวยื่นหนังสือถึงรัฐบาล ให้ขยายโครงการพยุงราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันหลังหมดเขตเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน อ้างหลังหมดโครงการราคาปาล์มตกต่ำกว่าต้นทุนส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนปาล์มอย่างหนัก 
           วันที่ 5 ก.ค.56 ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสุคนธ์ เฉลิมพัฒน์ นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมคณะกรรมกรรมการบริหารสมาคมได้ประชุมด่วนหาทางแก้ไขปัญหาหลังจากราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันวันนี้ (5 ก.ค.) ราคาตกลงเหลือกิโลกรัมละ 3.20 บาท ซึ่งราคาดังกล่าวชาวสวนระบุต่ำกว่าต้นทุน ส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มได้รับผลกระทบหนักเป็นวงกว้าง
          นายสุคนธ์ เฉลิมพัฒน์ นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หลังจากโครงการพยุงราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันที่คณะกรรมการนโยบายและมาตรการการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.)ได้หมดไปเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้ราคาตกต่ำลงมาต่อเนื่อง ซึ่งการประชุมวันนี้ ทางสมาคมมีมติยื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาลขยายโครงการพยุงราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันไปอีก 2 เดือน จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนปาล์ม โดยให้เหตุผลว่า โครงการดังกล่าวส่งผลผลิตปาล์มน้ำมันมีราคาสูงถึง 4.30 บาทต่อกิโลกรัม หากรัฐบาลไม่ขยายเวลาทางสมาคมชาวสวนปาล์มทั่วประเทศจะออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องกดดันต่อไป
ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

วันพุธที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2556

สลด...แม่บังเกิดเกล้าบังคับลูกสาววัย 14 ปี ขายตัวในร้านคาราโอเกะ


สลดแม่บังเกิดเกล้าบังคับลูกสาววัย 14 ปีขายตัว ลูกสาวสุดทนติดต่อชายคนรักมารับตัวหลบหนีกลางดึก สร้างความไม่พอใจแก่แม่ตามแจ้งความเอาผิด และเรียกร้องเงินค่าเสียหาย 100,000 บาท ในขณะที่ลูกสาวแฉแม่เปิดร้านคาราโอเกะบังหน้าใช้เป็นสถานที่นายหน้าขายบริการ และเป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาเสพติด
      
       วันที่ 9 เม.ย.56  ที่ สภ.เวียงสระ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี นางเกศรี ศิริสุทธิ์ อายุ 38 ปี ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.พงศ์รัตน์ ทองมาก พนักงานสอบสวน สภ.เวียงสระ ดำเนินคดีต่อ นายประวิทย์ หอยสังข์ อายุ 23 ปี ในข้อหาพรากผู้เยาว์ และเรียกร้องเงิน 100,000 บาท โดยนางเกศรี ได้ระบุว่า นายประวิทย์ ได้หลอกลวง น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ลูกสาวไปในทางชู้สาว
      
       นางสมทรง ลัพเลี่ยม อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 318/21 ม.10 ต.บ้านส้อง ผู้ปกครอง นายประวิทย์ ได้เปิดเผยว่า นายประวิทย์ ไม่ได้หลอกลวง น.ส.เอ แต่เป็นการช่วยเหลือ น.ส.เอ เนื่องจากนางเกศรี ผู้เป็นแม่บังเกิดเกล้า และพ่อเลี้ยงบังคับให้ขายตัว จึงต้องการหลบหนีออกจากบ้านพักจนเกิดการได้เสียกันขึ้น ก่อนหน้านี้ ตนได้นำเด็กทั้งคู่มาแจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานไว้แล้ว
          ในขณะที่ น.ส.เอ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า นางเกศรี ผู้เป็นแม่บังเกิดเกล้าได้เปิดร้านสุขสันต์คาราโอเกะ และดอกรักคาราโอเกะ ในตลาดบ้านส้อง อ.เวียงสระ มีการขายบริการทางเพศ และเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด โดยตนเองเป็นพนักงานบริการดูแลแขกที่มาเที่ยว ซึ่งก่อนเกิดเหตุ มีเพื่อนๆ ของพ่อเลี้ยงมาเที่ยวต้องการหาเด็กไปนอนด้วยแต่เด็กขายบริการขาด จึงมาถามตนไปนอนกับแขกเอามั้ย แขกให้ 4,000-5,000 บาท ตนไม่ตกลงด้วย นางเกศรี ได้พูดข่มขู่ว่าหากไม่ไปไม่ต้องมาพูดกัน ตนเกิดความเกรงกลัวว่าแม่และพ่อเลี้ยงจะบังคับ และทำร้ายเพื่อให้ไปนอนกับแขก จึงได้ติดต่อกับนายประวิทย์ คนรักให้มารับพาหลบหนีออกจากร้านดอกรักคาราโอเกะ ซึ่งตนเองได้ปีนลงมาจากชั้นที่ 2 ของร้าน เนื่องจากไม่กล้าออกมาทางหน้าร้าน ซึ่งมีแขกและพ่อเลี้ยงกับแม่อยู่ด้านล่างกลางดึก
      
       ขณะที่ น.ส.เอ กำลังให้รายละเอียดต่อผู้สื่อข่าวอยู่นั้น นางเกศรี ผู้เป็นแม่ได้เข้ามาด่าทอลูกสาวจึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น โดยลูกสาวได้หลุดปากว่า แม่เป็นคนตั้งวงเสพยาเสพติด นางเกศรี โกรธจัดเข้ามาจะทำร้ายลูกสาว แต่นายประวิทย์ ได้ดึงตัว น.ส.เอ ออกมาก่อน และก่อนที่เรื่องจะลุกลามใหญ่โตเจ้าหน้าที่ตำรวจบน สภ.เวียงสระ ได้เข้ามาระงับเหตุ พร้อมนำทั้งคู่แยกสอบสวน และขอร้องไม่ให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพเหตุการณ์ต่อไปอีก
โดย.. ASTV Manager ภาคใต้

ผู้ใหญ่บ้านขู่อุ้มแกนนำต่อต้านอุทยานฯ ใต้ร่มเย็นโค่นต้นยางชาวบ้าน


ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 17 ต.บ้านส้อง อำเภอเวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ขู่อุ้มกลุ่มแกนนำต้านอุทยานใต้ร่มเย็นประกาศทับที่ทำกิน หากไม่หยุดเดินเรื่องคดีเจ้าหน้าที่อุทยานตัดโค่นต้นยางพาราที่มีอายุ 7-20 กว่าปีในพื้นที่ทับซ้อน
      
       วันที่ 9 เม.ย.56 ที่ สภ.เวียงสระ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี น.ส.ภัณฑิลา ดีหนู นายสมเกียรติ จำปาดง อายุ 45 ปี แกนนำต่อต้านอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นประกาศทับที่ทำกินได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.พงศ์รัตน์ ทองมาก พนักงานสอบสวน สภ.เวียงสระ
      
       โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2556 นายไพรัช มากรักษ์ ซึ่งเป็นพี่ชายของนางปรีดา จำปาคง ภรรยาตนเองได้มาบอกว่า นายสุทิน อินทร์คง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 17 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ได้เรียกนายไพรัช ไปพบพร้อมบอกว่าให้ไปบอกนายสมเกียรติ ให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับเรื่องคดีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นตัดโค่นต้นยางพาราอายุ 7-20 ปี ในพื้นที่ทับซ้อนการประกาศเขตอุทยานฯ ของนายโสภณ ดีหนู จำนวนกว่า 500 ต้น และของนายสงัด แก้วเพ้ง เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2555 ปลายปีที่ผ่านมา หากไม่เลิกยุ่งเกี่ยวจะส่งคนมาจัดการ
      
       จึงเข้ามาแจ้งความเป็นหลักฐาน หากตนเอง และครอบครัวได้รับอันตรายใดๆ ขอให้สันนิษฐานว่าเกิดจากการกระทำของนายสุทิน อินทร์คง กับพวก เนื่องจากตนเองไม่เคยมีสาเหตุขัดแย้งกับผู้ใด
      
       ทาง พ.ต.ต.พงศ์รัตน์ ทองมาก พนักงานสอบสวนจะได้นำเสนอต่อผู้บังคับบัญชา และนายอำเภอเวียงสระดำเนินการต่อไป
โดย.. ASTV Manager ภาคใต้

วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2556

สุราษฎร์ฯ เดินหน้ากระตุ้นท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซัน มั่นใจขยายตัว 20%


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุราษฎร์ธานี เตรียมจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซัน มั่นใจตลอดปีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งคนไทย และต่างชาติขยายตัวร้อยละ 20
          นายภาณุ วรมิตร ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเที่ยวเกาะสมุยในขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากเอเชียมากขึ้น เช่น จีน มาเลเซีย ญี่ปุ่น และเกาหลี ขณะที่นักท่องเที่ยวยุโรป ซึ่งเดิมเคยเป็นตลาดหลัก เช่น นักท่องเที่ยวจากเยอรมนี มีอัตราการการเติบโตที่ชะลอตัวลง สำหรับอัตราการเดินทางของนักท่องเที่ยวขณะนี้มีประมาณ 80% แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 70% และนักท่องเที่ยวคนไทย 10%
      
       นอกจากนี้ ช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซัน ทางสำนักงานเตรียมจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดการเดินทางตลอดปี โดยจับมือร่วมกับสายการบินแอร์เอเชีย เปิดเส้นทางกัวลาลัมเปอร์-สุราษฎร์ธานี ดึงกิจกรรมทางการกีฬาจัดในทุกๆ เดือน เช่น กอล์ฟเอเชียนทัวร์ ซึ่งกำหนดจัดในเดือนมิถุนายน เพื่อยืดระยะเวลาวันพักของนักท่องเที่ยวให้นานขึ้น อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าตลอดทั้งปีนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งคนไทย และต่างชาติเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 20 โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยประมาณ 1 ล้านคน และนักท่องเที่ยวคนไทยประมาณ 1.8 ล้านคน
โดย.. ASTV Manager ภาคใต้

เกาะสมุยเดินหน้าติดตามปราบปราบยาเสพติด


อำเภอเกาะสมุย เดินหน้าติดตามการปราบปราม และบำบัดผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่ พร้อมมอบนโยบายการทำงาน
          วันที่ 3 เม.ย.56  ณ ห้องประชุมอำเภอเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายประเสริฐ จิตมุ่งมั่น นายอำเภอเกาะสมุย เป็นประธานประชุมหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย เพื่อมอบนโยบาย และแนวทางการทำงานให้มีการทำงานของส่วนราชการในพื้นที่ให้สอดคล้องกัน และไปในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งรายงานผลการปฏิบัติงานในเดือนที่ผ่านมา ทั้งงานนโยบายของจังหวัด และงานนโยบายการพัฒนาท้องถิ่นของอำเภอเกาะสมุยว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง โดยเน้นย้ำในเรื่องของการปราบปราม และบำบัดยาเสพติด ซึ่งเมื่อวันที่ 20-28 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา งานปกครอง (ฝ่ายความมั่นคง) ของอำเภอเกาะสมุยได้จัดค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด เพื่อลดบริมาณการติดยาเสพติดของอำเภอเกาะสมุยให้ลดลง
      
       นายประเสริฐ จิตมุ่ง นายอำเภอเกาะสมุย กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินงานของหน่วยงานราชการต่างๆ นั้น ก็ได้มอบนโยบายให้ปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เต็มที่ และให้นึกถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมา ก็ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการต่างๆ ในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีมาโดยตลอด ส่งผลให้เกิดการบูรณาการในการทำงานร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
โดย.. ASTV Manager ภาคใต้

วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ภาครัฐ เอกชน ขานรับจัดงานเสวนากาแฟ ระดมความคิดแก้ไขปัญหาเกาะสมุย


อำเภอเกาะสมุย จับมือภาครัฐ และเอกชน จัดกิจกรรม เสวนากาแฟสะท้อนปัญหาต่างๆ รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการแก้ไขปัญหา
      
       วันที่ 22 ก.พ.56 ที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยสมุย (สวท.สมุย) FM.96.75 Mhz. ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีการจัดกิจกรรม เสวนากาแฟนำโดย นายประเสริฐ จิตมุ่ง นายอำเภอเกาะสมุย ทำหน้าที่เป็นประธานเปิดกิจกรรม ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน พร้อมทั้งกล่าวถึงกิจกรรมดังกล่าวว่า เป็นการร่วมมือกันกับทุกภาคส่วนในพื้นที่เกาะสมุย ซึ่งจะมีการสลับหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการปรึกษาหารือข้อราชการ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นสำหรับใช้เป็นข้อมูลในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่อำเภอดังกล่าว
      
       ด้าน นายสุริน รักษาแก้ว ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยสมุย กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย ได้ให้ความสำคัญในการจัดกิจกรรมเสวนากาแฟมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นถือเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่จะทำให้หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่อำเภอเกาะสมุยเกิดความสมัครสมานสามัคคีกันมากขึ้น และสามารถร่วมกันทำงาน และแก้ไขปัญหาต่างๆ ในพื้นที่อำเภอเกาะสมุยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดย.. ASTV Manager ภาคใต้

วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

คุมประพฤติสาขาสมุยจัดค่ายวิถีพุทธวิถีไทยบำบัดผู้ติดยาเสพติด


สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุยเปิดโครงการ ค่ายวิถีพุทธ วิถีไทยในระหว่างวันที่ 19-21 กุมภาพันธ์ 2556 เพื่อบำบัดผู้ติดยาเสพติด โดยใช้หลักศาสนาในการบำบัด
           วันที่ 19 ก.พ.56 นายชัยวุฒิ ต่อปัญญาเรือง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเกาะสมุย เป็นประธานเปิดกิจกรรม ค่ายวิถีพุทธ วิถีไทยจัดโดยสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย ณ วัดน้ำตกหินลาด หมู่ที่ 2 ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อบำบัดผู้ติดยาเสพติด โดยใช้หลักศาสนาในการบำบัด ซึ่งกำหนดให้ผู้กระทำผิดคดียาเสพติดทุกประเภทเข้าค่ายปฏิบัติธรรมตามหลักสูตรที่กำหนด ในระหว่างวันที่ 19-21 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 30 คน
      
       นายสมศักดิ์ สุขเกษม ประธานอาสาสมัครคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม จังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย กล่าวว่า สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม มีบทบาทหน้าที่ในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชน โดยมีอาสาสมัครคุมประพฤติ และเครือข่ายยุติธรรมเป็นผู้ช่วยเหลือพนักงานคุมประพฤติในการปฏิบัติงานผู้กระทำผิดในระบบงานคุมประพฤติหลากหลาย เช่น ผู้กระทำผิดที่เป็นผู้ใหญ่ ตาม ม.56 แห่งประมวลกฎหมาย ผู้กระทำผิดที่เป็นเด็กและเยาวชน ผู้กระทำผิดในชั้นพักการลงโทษ และลดวันต้องโทษจำคุกในชั้นราชทัณฑ์
          ตลอดจนผู้เสพยาเสพติดตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.2545 ซึ่งถือว่าผู้เสพเป็นผู้ป่วย ผู้กระทำผิด ในระบบงานคุมประพฤติแต่ละประเภท จะต้องได้รับการแก้ไขฟื้นฟูตามระบบการจำแนกให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา และความต้องการ
      
       นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับหลักสูตรกิกรรมในการบำบัดผู้ติดยาเสพติดในครั้งนี้ ประกอบด้วย กลุ่มวิชาพัฒนาจิตใจกับกลุ่มวิชัฒนาสภาพร่างกาย ความรับผิดชอบ และการอยู่ร่วมกัน โดยมีพระครูสมุห์สุเมธา กันตาสโร และคณะ เป็นพระวิทยากรตลอดหลักสูตร
โดย.. ASTV Manager ภาคใต้

วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

กรมพัฒนาพลังงานทดแทนให้ความรู้ออกแบบอาคารเพื่ออนุรักษ์พลังงาน


กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงานจัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานตามกฎหมายให้แก่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย
          วันที่ 15 ก.พ.56 นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย เป็นประธานเปิดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานตามกฎหมาย ให้แก่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย ณ ห้องประชุมเพชรสมุย เทศบาลนครเกาะสมุย อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งจัดโดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ประมาณ 50 คน
      
       นายประกอบ เอี่ยมสอาด ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานการออกแบบอาคารเพื่ออนุรักษ์พลังงาน กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ว่า กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน หรือ พพ. ในฐานะหน่วยงานหลักของภาครัฐซึ่งรับผิดชอบในการกำกับดูแล และส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน ได้มีการดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อส่งเสริมสนับสนุน และผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย มีการออกแบบอาคารที่ใช้พลังงานอย่างประหยัด และมีประสิทธิภาพ ตามหลักเกณฑ์ และมาตรฐานที่กำหนดในกฎกระทรวงฯ ด้วยความสมัครใจ
          โดยที่ผ่านมา กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงานได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการออกแบบอาคารเพื่ออนุรักษ์พลังงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ไปแล้ว จำนวน 7 แห่ง ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร เทศบาลนครนครราชสีมา เมืองพัทยา เทศบาลนครเชียงใหม่ เทศบาลนครหาดใหญ่ เทศบาลนครภูเก็ต และเทศบาลนครเกาะสมุย
      
       ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานการออกแบบอาคารเพื่ออนุรักษ์พลังงาน กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ที่ผ่านมาในช่วงปี 2553-2555 กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงานได้ให้บริการตรวจประเมินและให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงแบบอาคารเพื่ออนุรักษ์พลังงานไปแล้วกว่า 160 แบบ ส่งผลให้มีศักยภาพการประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 27 ล้านหน่วย/ปี คิดเป็นมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท/ปี และสามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ถึงปีละ 34,000 ตัน
โดย.. ASTV Manager ภาคใต้

วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

นักท่องเที่ยวเข้าเกาะเต่าคึกคักช่วงตรุษจีน คาดเงินสะพัดกว่า 500 ล้าน แต่เจอปัญหาขาดน้ำจืด


เทศกาลตรุษจีนปีนี้บรรยากาศการท่องเที่ยวเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี คึกคัก ห้องพักกว่า 2,000ห้อง ถูกจับจองเต็ม คาดเงินสะพัดกว่า 500 ล้านบาท ทำน้ำจืดไม่พอใช้
      
       วันที่ 7 ก.พ.56  ที่ท่าเทียบเรือเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และชาวไทยหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อนกันเป็นจำนวนมาก
      
       นายชยันต์รัฐ รุ่งโรจวรารักษ์ ปลัดอำเภอเกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้า-ออกเกาะเต่าวันละกว่า 1,000 คน แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวจากทวีปยุโรป และแถบเอเชีย โดยเฉพาะชาวจีนเข้ามาพักบนเกาะเต่าวันละกว่า 30,000 คน ซึ่งคาดว่าในเทศกาลตรุษจีนปีนี้จะมีเงินสะพัดมากกว่า 500 ล้านบาท
      
       อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและอาสาสมัครต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว รวมทั้งขณะนี้เกาะเต่าฝนได้ทิ้งช่วงนาน ทำให้แหล่งน้ำจืดบนเกาะเต่าขาดแคลน ผู้ประกอบการต้องนำน้ำมาจากบนฝั่งและซื้อน้ำในราคาแพงมาบริการนักท่องเที่ยว ประกอบกับท่าเทียบเรือแออัดทรุดโทรมขาดการดูแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และปัญหาไฟฟ้าไม่เพียงพอมีการดับบ่อย และเป็นเวลานานส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างหนัก
      
       ส่วนสภาพอากาศที่เกาะเต่า ท้องฟ้าโปร่งใส คลื่นลมเงียบสงบน้ำทะเลใสเหมาะแก่เดินทางเข้ามาพักผ่อน เช่น ท่องเที่ยวพักผ่อนชายหาด นั่งเรือตกปลา ดำน้ำตื้นและน้ำลึก สำหรับเกาะเต่าเป็นแหล่งมีชื่อเสียงติดอับดับต้นๆ ของโลกในเรื่องน้ำใสสะอาด และเป็นแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

ชาวสุราษฎร์ฯ กว่า 300 เตรียมยื่นศาลปกครอง อุทยานใต้ร่มเย็นประกาศทับที่ทำกิน




ชาวบ้านกว่า 300 ครัวเรือนในอำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมตัวเตรียมพร้อมยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อเพิกถอนที่ดินทำกินจำนวนกว่า 5,000 ไร่ ที่ถูกอุทยานใต้ร่มเย็นประกาศทับที่ทำกิน
      
       จากกรณีนายโสภณ ดีหนู อายุ 70 ปี พร้อม น.ส.ภัณฑิลา ดีหนู อายุ 40 ปี ชาวสวนยาง 2 พ่อลูก ที่อาศัยอยู่ที่ หมู่ที่ 17 บ้านสวนกล้วย ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน ว่า ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานใต้ร่มเย็นจำนวนหนึ่งบุกเข้าตัดโค่นต้นยางพาราที่มีอายุกว่า 7 ปี จำนวนกว่า 500 ต้น ในพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ที่ดินดังกล่าวได้เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่มาตั้งแต่ปี 2505 โดยมีเอกสารการเสียภาษีที่ดินกับทางอำเภอยืนยัน แต่ทางอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นได้ประกาศพื้นที่ทับพื้นที่การเกษตรหมู่ที่ 17 จำนวน 5,000 กว่าไร่ ส่งผลให้ประชาชนกว่า 300 ครัวเรือนเดือดร้อนหนักมาตั้งแต่ปี 2534 ชาวบ้านได้รวมตัวต่อสู้เรียกร้องให้ภาครัฐลงมาแก้ปัญหาแต่เรื่องไม่คืบหน้า
      
       ความคืบหน้าล่าสุด เรื่องทราบถึงนายมนตรี เพชรขุ้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ส่งนายสมบูรณ์ ทองพัฒน์ ทนายความประจำตัว และเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่ผู้ได้รับผลกระทบ โดยพบกับชาวบ้านที่ศาลาประชุมบ้านสวนกล้วย หมู่ที่ 17 โดยมีชาวบ้านกว่า 300 ครัวเรือนนำเอกสารที่สำคัญเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือดำเนินการทางด้านกฎหมาย นำที่ดินทำกินที่ถูกทางการประกาศทับกลับมาหากินได้ตามปกติ ซึ่งชาวบ้านจำนวนนับ 10 รายต่างระบุว่า ต้นยางพาราที่หมดอายุไม่สามารถตัดโค่นเพื่อดำเนินการปลูกใหม่ ทั้งที่กองทุนสวนยางได้อนุมัติทุนสนับสนุนแล้วก็ตาม บางรายนำเอกสารทางหน่วยงานด้านการเกษตรมายืนยันว่า พื้นที่อยู่นอกเขตอุทยานก็ตาม
      
       หลังจากรับเรื่องร้องเรียนแล้ว นายสมบูรณ์ ได้สรุปในเบื้องต้นว่า จะรวบรวมพยานหลักฐานที่สำคัญต่างๆ พร้อมนำเรื่องเข้าสภาทนายความ ภาค 8 เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้คุ้มครองสิทธิ และเพิกถอนการประกาศทับที่ดินทำกินทั้งหมด
      
       นายสุทิน อินทร์คง อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 17 ได้กล่าวว่า ทางชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เวียงสระ อ.บ้านนาสาร และ อ.กาญจดิษฐ์ ที่ถูกทางการประกาศทับที่ดินทำกินจำนวน 28,770 ไร่ ได้รวมตัวเป็นเครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น เรียกร้องให้ภาครัฐเพิกถอนที่ดินทั้งหมด แต่ยังไม่มีความคืบหน้า เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2555 กลุ่มเครือข่ายฯ ได้เข้าร้องเรียนให้แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการพิสูจน์สิทธิ การครอบครองที่ดินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์เขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น และการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า เรื่องการขอตัดโค่นไม้ยางที่หมดสภาพ และปลูกแทนใหม่ รวมทั้งการเพิกถอนพื้นที่ทับซ้อนที่ทำกินของประชาชน ต่อนายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี
      
       จนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีคำสั่งที่ 2318/2555 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2555 แต่งตั้งคณะกรรมการไตรภาคี เพื่อแก้ไขปัญหาราษฎรที่อาศัยอยู่ในบริเวณเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น อำเภอบ้านนาสาร อำเภอกาญจนดิษฐ์ และอำเภอเวียงสระ พร้อมมีคำสั่งขอให้ระงับการตัดฟันรื้อถอนผลอาสินของราษฎรในพื้นที่ทับซ้อนการประกาศเขตอุทยานออกไปก่อน รอจนกว่าการพิสูจน์การครอบครองที่ดินที่ตกค้างให้แล้วเสร็จ แต่ทางเจ้าหน้าที่อุทยานได้ดำเนินการตัดทำลายพืชผลอาสินอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างว่ามีอำนาจพิเศษ โดยไม่สนใจคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดแต่อย่างใด
      
       ด้านนายนิคม ดำกุล ประธานเครือข่ายฯ ได้กล่าวว่า การประกาศเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2534 เป็นการประกาศที่ไม่คำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน ไม่เป็นธรรมต่อประชาชนที่อยู่อาศัยมาก่อน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2500 โดยมีเอกสารอ้างอิง ประวัติหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการทับซ้อนบนที่ดินทำกินของราษฎร ได้สร้างความเดือดร้อนให้ถึง 3 อำเภอ 58 หมู่บ้าน ซึ่งราษฎรได้รวมตัวกันเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปี 2546 ในการประชุมของคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2546 ระเบียบวาระที่ 4.4 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการให้เพิกถอนพื้นที่อุทยานบางส่วนที่ทับซ้อนที่ดินทำกินของราษฎร ประมาณ 28,770 ไร่ และอยู่ในระหว่างการดำเนินการเพื่อเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาประกาศเพิกถอน แต่จนบัดนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ซ้ำยังถูกจับกุมดำเนินคดีราษฎรหลายรายในพื้นที่ อันเป็นการซ้ำเติมความเดื่อดร้อนทุกข์ยากให้ราษฎรเหล่านี้เป็นอย่างยิ่ง
ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

วันศุกร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2556

ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ เดินหน้ายึดไม้เถื่อนเกือบ 2 ล้านบาท ระดมปิดล้อมแก๊งมอดไม้




จังหวัดสุราษฎร์ฯ เดินหน้ายึดไม้เถื่อนในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุงเพิ่มอีกจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นไม้หลุมพอแผ่นใหญ่ มูลค่าเกือบ 2 ล้านบาท เจ้าหน้าที่เร่งระดมกำลังปิดล้อมจับกุมแก๊งมอดไม้ที่คาดว่ายังกบดานอยู่ในเขตอุทยานฯ
                  จากกรณี นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง หมู่ที่ 16 บ้านบางไต ตำบลตะกุกเหนือ อำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังจากได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าจากกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 คน พร้อมเครื่องเลื่อยยนต์ และอุปกรณ์ตัดไม้จำนวนหนึ่ง
                ล่าสุด วันนี้ (10 ม.ค.) นายถาวร พรหมฉิม ป้องกันจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมนายจงรัก ทรงรัตน์พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำเจ้าหน้าที่กำลังผสมเข้าตรวจสอบพื้นที่เป็นวันที่ 2 พบมีการแปรูรูปไม้หวงห้าม และเตรียมขนย้ายออกจากพื้นที่ จำนวน 3 จุด โดยจุดที่ 1 พบการแปรรูปไม้หลุมพอขนาดใหญ่ กลางสวนยางพารา มีหน้ากว้างตั้งแต่ 80-150 เซนติเมตรยาว หนา 6 นิ้ว ยาว 4-8 เมตร พร้อมที่จะนำไปทำเฟอร์นิเจอร์ จำนวน 29 แผ่น คิดเป็นปริมาตร 13 ลูกบาศก์เมตร
                 จุดที่ 2 ห่างจากจุดแรกประมาณ 400 เมตร พบต้นไม้ตะเคียนทรายขนาดใหญ่อายุกว่า 300 ปี ถูกตัดโค่นทำการแปรรูปขนาดต่างๆ จำนวน 155 แผ่น คิดเป็นปริมาตร 5.60 ลูกบาศก์เมตร ส่วนจุดที่ 3 ห่างจากจุดที่ 1 ไป 4 กิโลเมตร พบไม้หลุมพอแปรรูปขนาดใหญ่ หน้ากว้างประมาณ 90-150 เซนติเมตร ยาว 4-6 เมตร จำนวนกว่า 20 แผ่น ถูกลำเลียงมาตามลำน้ำคลองยัน ในเบื้องต้นไม้ที่ยึดได้เจ้าหน้าที่คิดเป็นมูลค่าเกือบ 2 ล้านบาท ซึ่งขณะเข้าทำการตรวจยึดไม้ไม่พบผู้กระทำความผิด เจ้าหน้าที่คาดว่ายังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง
                นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี สั่งระดมเจ้าหน้าที่อุทยานฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยัน พร้อมอาวุธครบมือ จำนวน 30 นาย เข้าทำการไล่ล่าจับกุมตัวมาดำเนินคดี แต่การติดตามค่อนข้างจะอยากลำบากเนื่องจากพื้นที่อุทยานฯ เป็นป่าเขาที่รกชัฏ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์