วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ที่ปรึกษา สบ 10 ติดตามคดีฆ่าโหดโยนทะเล 4 ศพ ที่สุราษฎร์ฯ


ที่ปรึกษา สบ 10 ลงพื้นที่สุราษฎร์ธานี ติดตามคดีสะเทือนขวัญฆ่าโหดโยนทะเล 4 ศพ ขณะที่ตำรวจสุราษฎร์ฯ รอผลตรวจ DNA ก่อนออกหมายจับผู้ต้องสงสัย
      
       
พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา สบ 10 ลงพื้นที่สุราษฎร์ฯ จี้คดีอุ้มฆ่าโหดแก๊งลักทรัพย์โยนทะเล 4 ศพ พร้อมเรียกเจ้าของโรงแรมร้างผู้ต้องสงสัยสอบเครียด ในขณะเจ้าตัวปฎิเสธไม่รู้ไม่เห็น ในขณะที่เจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัย 6 คน หากไม่มาพบเตรียมออกหมายจับ
      
       ความคืบหน้าคดีอุ้มฆ่าแก๊งลักทรัพย์โยนทะเล จำนวน 4 ศพที่ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 11 พ.ย.55 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ นำศพพิสูจน์หาร่องรอยการเสียชีวิต 3 ศพ คือ นายแสงระวี สิทธิพันธ์ นายไพฑูรย์ พุ่มเงิน นายสิทธิชัย พุ่มเงิน พี่ชายนายไพฑูรย์ โดยรายที่ 4 คือ นายอาคม อัมภวา ที่ตอนนี้ยังเป็นผู้สูญหาย โดยคดีนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เฝ้าติดตาม และให้ความสนใจเพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ
      
       ล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 17 พ.ย.55 พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา สบ 10 ลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมเรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนคดีที่ห้องประชุม สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี โดยมี พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.พงษ์นเรศ ตันติวัฒนา หัวหน้ากลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 และตำรวจทีมชุดสืบสวนสอบสวนทั้งหมดประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี
      
       โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 15 นาที จากนั้น พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา สบ 10 ได้สอบปากคำนายโกศล โอทอง อดีตเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานี ผู้ต้องสงสัย และในฐานะเจ้าของโรงแรมตาปีริเวอร์ไซด์ ที่ปัจจุบันปิดกิจการ ตั้งอยู่หมู่ 2 ตำบลบางใบไม้ เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี สถานที่พบรอยคราบเลือด และพยานหลักฐานจำนวนหนึ่งที่ตกอยู่ในโรงแรม
          พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา สบ 10 กล่าวว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควรและตอนนี้ยังไม่ออกหมายจับใคร ต้องรอผลตรวจ DNA มายืนยันก่อน ซึ่งจากการสอบปากคำนายโกศล โอทอง ได้ให้ข้อมูลว่า โรงแรมดังกล่าวปิดกิจการมาประมาณ 2 ปีแล้ว เพราะมีปัญหาด้านบริหาร ซึ่งทรัพย์สินในโรงแรมที่หายไปเป็นความเสียหายเกี่ยวกับระบบไฟ รวมมูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท และปฎิเสธไม่รู้ไม่เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และที่มาให้ถ้อยคำเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
      
       ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัย จำนวน 6 คน มารายงานตัวแต่ขณะนี้ผู้ต้องสงสัยทั้งหมดยังไม่มารายงานตัว หากพ้นกำหนดเตรียมออกหมายจับกุมต่อไป
ข้อมูลจาก.. ASTVผู้จัดการออนไลน์

วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

มรส.จัดการแข่งขันมวยไทยการกุศล สืบสานมวย “ไชยา”


มรส.จัดการแข่งขันมวยไทยการกุศล หารายได้เข้ากองทุนกีฬามหาวิทยาลัย สนับสนุนการทำกิจกรรมของนักศึกษา มุ่งสืบสาน มวยไชยามีชื่อเสียงมากในสมัยรัชกาลที่ 5 พร้อมเตรียมทีมนักกีฬามวยสู่การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย
ผศ.ดร.ณรงค์ พุทธิชีวิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) เปิดเผยว่า มรส. ร่วมกับสมาคมศิษย์เก่า กำหนดจัดการแข่งขันชกมวยไทยการกุศลขึ้น ในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ ณ สนามมวยชั่วคราว มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปสมทบทุนกองทุนกีฬา และมอบให้แก่คณะต่างๆ เพื่อใช้ในการทำกิจกรรมของนักศึกษา ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้นักศึกษา ประชาชน และศิษย์เก่าได้ออกกำลังกาย และเล่นกีฬา รวมทั้งเป็นการเตรียมทีมนักกีฬามวยของมหาวิทยาลัยสู่การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยต่อไปด้วย
      
       “การพัฒนาบุคลากรของประเทศนั้นสามารถทำได้หลายช่องทาง การกีฬาก็เป็นช่องทางหนึ่งในการพัฒนาศักยภาพของประชาชนในประเทศ ซึ่งการส่งเสริมให้ประชาชนได้ออกกำลังกาย และเล่นกีฬานั้นถือเป็นกิจกรรมหนึ่งในการพัฒนาคนอย่างยั่งยืน ในขณะเดียวกัน ยังสามารถพัฒนาไปสู่คุณลักษณะพึงประสงค์อื่นๆ ได้ด้วย เช่น การสร้างเสริมภาวะผู้นำ การมีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ การดึงเยาวชนให้ห่างจากการมั่วสุมเกม ยาเสพติด และการพนัน ตลอดจนการเรียนรู้ที่จะพัฒนาตนเองร่วมกับทีมอธิการบดี มรส.กล่าว
      
       ด้าน ผศ.นรินทร์ สุขกรี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา กล่าวว่า มวยไทยเป็นกีฬาที่สืบทอดมาแต่โบราณกาล เป็นศิลปะการต่อสู้ที่ผสมผสานระหว่างทักษะ ความแข็งแกร่ง พละกำลัง ความกล้าหาญ และไหวพริบสติปัญญา ทำให้เป็นกีฬาที่ครบเครื่อง มีเสน่ห์ และมีคุณค่าคู่ควรแก่การสืบสานรักษาไว้ให้ตกทอดถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน
      
       “จังหวัดสุราษฎร์ธานีถือเป็นเมืองมวยจังหวัดหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่อำเภอเวียงสระ อำเภอเกาะสมุย และอำเภอไชยา ซึ่งมีมวยไชยาเป็นศิลปะการต่อสู้ประจำถิ่น และมีชื่อเสียงมากในสมัยรัชกาลที่ 5 ดังนั้น การจัดการแข่งขันในครั้งนี้จึงถือเป็นการสืบสานศิลปะการต่อสู้ท้องถิ่นด้วยในอีกทางหนึ่ง
ข้อมูลจาก.. ASTVผู้จัดการออนไลน์