เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำสุราษฎร์ฯ
จับสาววัย 26 ปี เอเยนต์ค้ายาบ้า พร้อมของกลาง 7,000 เม็ด หลังขยายผลจากการจับกุมผู้ค้ายารายย่อย
อ้างรับออเดอร์จากนักโทษเรือนจำบางขวาง
วันที่ 16 ส.ค.56 เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจน้ำสุราษฎร์ฯ สามารถรวบ 2 สาวนักค้ายาเสพติด หลังจากจับกุมผู้ค้ายารายย่อย และนำมาขยายผลจนถึงเอเยนต์รายใหญ่ที่ตระเวนส่งขายในอำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และพื้นที่ใกล้เคียง โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนางวนิดา หนูรักษ์ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 19/9 ม.5 ต.ทุ่งเตาใหม่ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมยาบ้า 5 เม็ด ขณะที่นำยามาส่งให้สายลับ
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขยายผลเพิ่มเติม จนสามารถตามจับ น.ส.สายใจ เต็มวิจิตร อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 23/282 ม.2 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี หลังลักลอบนำยามาส่งให้สายลับ จำนวน 200 เม็ด จึงแสดงตัวจับกุม และสอบสวนจนทราบว่า มียาเสพติดซุกซ่อนไว้อีกที่บ้านที่อาศัยอยู่ จึงเข้าตรวจค้นพบยาบ้าอีก 7,000 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวดำเนินคดี พร้อมยึดรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำผิด และทรัพย์สินที่คาดว่าได้มาจากการค้ายาเสพติด รวมมูลค่ารวม 4 ล้านบาท
เบื้องต้น ผู้ต้องให้การสารภาพว่า เป็นยาเสพติดของตนจริง จึงตั้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย นอกจากนั้น ผู้ต้องหายังอ้างว่า รับออเดอร์จากผู้ต้องขังเรือนจำบางขวาง ซึ่งเจ้าหน้ายังไม่ปักใจเชื่อ โดยจะดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไป
วันที่ 16 ส.ค.56 เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจน้ำสุราษฎร์ฯ สามารถรวบ 2 สาวนักค้ายาเสพติด หลังจากจับกุมผู้ค้ายารายย่อย และนำมาขยายผลจนถึงเอเยนต์รายใหญ่ที่ตระเวนส่งขายในอำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และพื้นที่ใกล้เคียง โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนางวนิดา หนูรักษ์ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 19/9 ม.5 ต.ทุ่งเตาใหม่ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมยาบ้า 5 เม็ด ขณะที่นำยามาส่งให้สายลับ
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขยายผลเพิ่มเติม จนสามารถตามจับ น.ส.สายใจ เต็มวิจิตร อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 23/282 ม.2 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี หลังลักลอบนำยามาส่งให้สายลับ จำนวน 200 เม็ด จึงแสดงตัวจับกุม และสอบสวนจนทราบว่า มียาเสพติดซุกซ่อนไว้อีกที่บ้านที่อาศัยอยู่ จึงเข้าตรวจค้นพบยาบ้าอีก 7,000 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวดำเนินคดี พร้อมยึดรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำผิด และทรัพย์สินที่คาดว่าได้มาจากการค้ายาเสพติด รวมมูลค่ารวม 4 ล้านบาท
เบื้องต้น ผู้ต้องให้การสารภาพว่า เป็นยาเสพติดของตนจริง จึงตั้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย นอกจากนั้น ผู้ต้องหายังอ้างว่า รับออเดอร์จากผู้ต้องขังเรือนจำบางขวาง ซึ่งเจ้าหน้ายังไม่ปักใจเชื่อ โดยจะดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไป
ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้